Wednesday, April 28, 2010
ลูกร้องกลั้น
ลูกรักอายุไม่กี่เดือน เวลาเห็นลูกแผดเสียงร้องจนงอหาย เหมือนจะหยุดหายใจไปเสียเฉยๆ คนเป็นแม่มือไม้สั่นใจสั่น ไม่รู้ว่าลูกเป็นอะไร จะเจ็บปวดตรงไหนก็ไม่เห็น ..ยิ่งแม่ลุกลี้ลุกลนจับตัวลูกพลิกซ้ายพลิกขวาหาสาเหตุ ลูกยิ่งร้องกลั้นจนหน้าเขียว.. แม่แทบขาดใจ
ไม่ใช่เฉพาะแม่คนใหม่ หรอกที่เจอสถานการณ์อย่างนี้ แม่ลูกสองลูกสามอาจจะจนตรอกเอาง่ายๆ เหมือนกัน ในเมื่อลูกคนแรกเลี้ยงง่ายดาย ร้องก็ร้องตามตำราว่าไว้ คือร้องต่อเมื่อหิว เปียกแฉะ ร้อนหนาว ..แต่เจ้าตัวเล็กนี่สิ ไม่เหมือนคนพี่ ร้องทีงอหาย กลั้นหายใจจนหน้าเขียว ทั้งที่กินก็อิ่มแล้ว เปียกก็ไม่เปียก มดกัดรึก็ไม่มี..
สื่อภาษาด้วยเสียงร้อง
ผู้ มีประสบการณ์ในการดูแลทารกบอกว่า ปกติการร้องของเด็กขวบปีแรกไม่ใช่ร้องอ้อน เรียกร้องความสนใจอย่างที่บางคนเข้าใจ การร้องของเด็กเป็นการสื่อสาร สื่อภาษา.. หนูหิว หนูเปื้อน หนูตกใจกลัว หนูอยากให้แม่มากอด เพราะฉะนั้นถ้าลูกร้อง พ่อแม่ต้องรีบมาตอบสนอง มาหาเขา มาอุ้ม มากอด มาปลอบ ดูสิว่าลูกหิวนม หรือต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมไหม
เด็กจะค่อยๆเรียนรู้ ว่าเมื่อเขาต้องการความช่วยเหลือจะมีคนมาหา มารัก มาช่วยเหลือดูแลทำให้เขาสบาย เรียนรู้ว่าเขามีเจ้าของ มีที่พึ่ง ไม่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว แม้จะมาช้าบ้าง แต่ก็มา เช่นพอลูกร้อง แม่อาจยังล้างขวดนมไม่เสร็จ แต่ส่งเสียงออกไปว่า"เดี๋ยวลูก" ลูกได้ยินเสียงแม่ จะรู้จักคอยเพราะรู้ว่าเดี๋ยวแม่ก็มา..
ตรงนี้ เองทำให้ลูกเริ่มจำแม่ได้ เริ่มผูกพันกับแม่ซึ่งเป็นผู้เลี้ยงดูใกล้ชิดที่สุด และการตอบสนองลูกอย่างนุ่มนวลสม่ำเสมออย่างนี้ตั้งแต่แรกเกิด จะสร้างพื้นฐานทางอารมณ์ที่ดีให้กับลูก ลูกจะเติบโตเป็นเด็กอารมณ์ดี พอ 3-4 เดือนจะเริ่มรู้จักยิ้ม หัวเราะ เล่นกับพ่อแม่ได้
แต่ถ้า พ่อแม่บางคนไม่เข้าใจ นึกว่าการที่ลูกร้องแล้วไปอุ้มไปโอ๋ปลอบโยนจะทำให้เสียเด็ก เคยตัว หรือติดมือ ปล่อยให้ลูกร้องหรือรอนานๆ ลูกจะยิ่งอารมณ์เสีย ร้องไห้งอแง กลายเป็นเด็กขี้โมโห ฉุนเฉียวไป
ลักษณะ อารมณ์ที่แตกต่าง
ลักษณะการร้องของเด็ก ยังขึ้นอยู่กับพื้นฐานทางอารมณ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดของเด็กแต่ละคนด้วย บางคนอาจจะขี้โมโห อากาศร้อนหน่อย รอหน่อยไม่ได้ หรือยังไม่ทันจะลืมตาก็แผดเสียงร้องก่อน ผิดกับเด็กบางคนนอนยิ้ม นอนเล่นเฉยๆได้ทั้งวัน เลี้ยงง่ายเลี้ยงดาย กินนมเสร็จก็หลับปุ๋ย ตื่นขึ้นมานอนมองโมบายล์ไป ไม่ยุ่งยากอะไร ฉี่เปียกก็ไม่ร้อง..
เพราะ ฉะนั้นเด็กที่ชอบร้องแผดเสียงดัง บางทีร้องงอหาย ร้องกลั้นหายใจ จนหน้าเขียวตัวเขียว ส่วนใหญ่เป็นเพราะพื้นอารมณ์ เป็นเด็กอารมณ์ร้อน อารมณ์รุนแรงมาตั้งแต่เกิด
นึกถึงคำพูดที่ว่าเด็กเหมือนผ้าขาวที่ เราสามารถแต่งแต้มหรือเลี้ยงดูให้เป็นอย่างไรก็ได้ ก็ไม่ผิด แต่ว่าผ้าขาวแต่ละผืนเนื้อผ้าอาจไม่เหมือนกัน บางคนเป็นผ้าฝ้าย บางคนเป็นผ้าแพรผ้าไหม ผ้าดิบ.. ถ้าเราจะพัฒนาลูกก็ต้องเข้าใจพื้นฐานอารมณ์ของลูกด้วย เข้าใจว่าเด็กแต่ละมีความแตกต่างกัน
สยบลูกใจร้อน
ถ้า สังเกตได้ว่าลูกมีพื้นฐานอารมณ์เป็นเด็กใจร้อน อารมณ์รุนแรง อย่าปล่อยให้ลูกคอยนาน ชนิดที่ว่าร้องจนตัวเขียวแม่ก็ยังไม่มา ลูกจะติดนิสัยใจร้อนขี้โมโหไปจนโต เพราะร้องแล้วไม่รู้ว่าแม่จะมาหรือไม่มา ฉะนั้นฉันต้องแผดเสียงไว้ก่อน
พ่อแม่ต้องทำให้ลูกค่อยๆใจเย็นลง ค่อยๆรู้จักรอคอย ทำให้ลูกมั่นใจว่าอย่างไรพ่อแม่ก็มาดูแลเอาใจใส่ ปฎิบัติต่อลูกด้วยท่าทีที่อบอุ่นนุ่มนวล มั่นคง และสม่ำเสมอ เจ้าตัวน้อยขี้โมโหจะค่อยๆรู้จักควบคุมตัวเองให้สงบลง
ที่สำคัญตัว พ่อแม่และผู้เลี้ยงดูเด็กนี่ละ ..ใจเย็นหรือเปล่า เด็กที่เกิดมาใจร้อนมักเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น ได้กรรมพันธุ์มาจากพ่อแม่นี่เอง หรืออาจได้แบบอย่างจากการเห็นหรือรู้สึกกับสิ่งที่พ่อแม่ปฏิบัติต่อเขา พ่อแม่บางรายไม่เข้าใจ พอลูกร้องมากๆ ตัวเองน็อตหลุด โกรธตอบลูก ตะเบ็งเสียงแข่งกับลูก หรือปฏิบัติกับลูกอย่างกระแทกกระทั้น ลูกจะยิ่งร้องตอบ เลียนแบบการแสดงอารมณ์ของพ่อแม่
หรือพ่อแม่ที่ตอบ สนองลูกไม่ถูก ได้ยินเสียงร้องของลูกแล้วเงอะงะมือไม้สั่น ลุกลี้ลุกลน ก็เหมือนกับที่ปล่อยให้ลูกรอคอยนั่นแหละ ลูกจะยิ่งร้องเพราะพ่อแม่ตอบสนองไม่ถูกใจตรงความต้องการสักที
ร้องอย่างนี้อันตรายไหม
พ่อ แม่กลัวนักหนาเวลาลูกร้องกลั้นจนหน้าเขียว..เพราะกลัวลูกจะขาดออกซิเจน กระทบกระเทือนถึงสมอง พาลนึกไปว่าร้องมากๆ จะทำให้ลูกโง่ไหมเนี่ย?
ไม่ เลย ตามสัญชาตญาณของคนเรา เด็กมีศูนย์ควบคุมการหายใจอยู่ที่สมองศูนย์นี้จะตอบสนองเร็วมากถ้ามีอะไร มากระทบ อย่างเช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพราะเวลาเราหยุดหายใจ คาร์บอนไดออกไซด์จะคั่ง จะกระตุ้นศูนย์หายใจ ทำให้เด็กหายใจทันที
เด็ก ที่ร้องกลั้นจะกลั้นหายใจอยู่ไม่นาน สักพักจะหายใจแล้วร้องต่อโดยอัตโนมัติจึงไม่ต้องกลัวว่าลูกจะเป็น อันตรายอย่างที่คิด
ไม่ สบายหรือเปล่า
ถ้าลูกเกิดเจ็บปวด ไม่สบาย จะร้องในลักษณะที่แตกต่างไปจากปกติ ถ้าปกติลูกเคยเป็นเด็กอารมณ์ดี ร้องก็ร้องไม่มาก จู่ๆเกิดร้องแผดเสียงจ้า หรือร้องกลั้นหน้าเขียว อาจเจ็บไข้ไม่สบายได้ แต่ก็ต้องมีอาการอย่างอื่นประกอบให้เห็นด้วย
เช่น ถ้าปวดท้อง ลูกก็จะร้องเกร็งแขนขางอ กำหมัดแน่น อาจจะท้องเสีย หรือถ้ามีลมในท้องก็จะท้องป่อง ถ้าจับนั่งเรอสักพักจะหาย หรือถ้าเป็นไข้ วัดปรอทจะเห็นว่าอุณหภูมิขึ้นสูง หน้าแดง ตัวแดง อย่างนี้เป็นต้น
ถ้า หาสาเหตุไม่เจอ อาจพาไปหาหมอตรวจให้แน่ใจ
ขอบคุณ มัีมมี่พีเดีย
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment