Wednesday, March 30, 2016

โรคกรดไหลย้อน


โรคกรดไหลย้อน เป็นอีกโรคที่หลายๆคนที่ชอบทานตอนดึกๆเป็นกัน เพราะบางครั้งเลิกงาน หรือเสร็จภาระกิจที่ต้องทำกันตอนดึกๆ แล้วมีรู้สึกหิว ก้อต้องหาอะไรทาน แต่การที่เราทานอาหารดึกๆแล้วนอนนี่แหละทำให้เราเป็นกรดไหลย้อน มาดูกัน
คะว่ากรดไหลย้อนคืออะไร แล้วเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

โรคกรดไหลย้อนคืออะไร

คือภาวะที่กรดไหลย้อนจากกระเพาะอาหารไปยังหลอดอาหาร ทำให้เกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอก หรือแสบหน้าอก บางครั้งอาจจะรู้สึกรสเปรี้ยว

สาเหตุของกรดไหลย้อน

  • Hiatus hernia (คือโรคที่เกิดจากกระเพาะอาหารส่วนต้นเข้าไปในกำบังลม)
  • ดื่มสุรา
  • อ้วน
  • ตั้งครรภ์
  • สูบบุหรี่
  • อาหารรสเปรี้ยว เผ็ด อาหารมักดอง อาหารมัน อาหารย่อยยาก
  • ทานอาหารมากจนอิ่มเกินไป
  • ช้อกโกแลต กาแฟ น้ำอัดลม
  • คนเครียด
  • อาหารมัน ของทอด
  • หอมกระเทียม
  • มะเขือเทศ

อาการของกรดไหลย้อน

อาการทางหลอดอาหาร
  • อาการปวดเสบร้อนบริเวณหน้าอก และลิ้มปี่ที่เรียกว่าร้อนใน (heart burn) บางครั้งอาจจะร้าวไปที่คอได้
  • รู้สึกมีก้อนอยู่ในคอ
  • กลืนลำบาก หรือกลืนแล้วเจ็บ
  • เจ็บคอหรือแสบลิ้นเรื้อรัง โดยเฉพาะในตอนเช้า
  • รู้สึกเหมือนมีรสขมของน้ำดี หรือมีรสเปรี้ยวของกรดในคอหรือปาก
  • มีเสมหะอยู่ในคอ หรือระคอตลอดเวลา
  • เรอบ่อย คลื่นไส้
  • รู้สึกจุกแน่นอยู่ในหน้าอก คล้ายอาหารไม่ย่อย

อาการทางกล่องเสียง และปอด

  • เสียงแหบเรื้อรัง หรือแหบเฉพาะตอนเช้าหรือมีเสียงผิดปกติจากเดิม
  • ไอเรื้อรัง
  • ไอ หรือ รู้สึกสำลักในเวลากลางคืน
  • กระแอมไอบ่อย
  • อาการหอบหืดแย่ลง
  • เจ็บหน้าอก
  • เป็นโรคปอดอักเสบเป็นๆหายๆ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นวิธีที่ดูแลตัวเองที่ดีที่สุด
  • ลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน เพราะคนอ้วนจะมีความดันในช่องท้องสูงทำให้กรดไหลย้อนได้มาก
  • งดบุหรี่เพราะการสูบบุหรี่จะทำให้เกิดกรดมาก และหูรูดอ่อนแรง
  • ใส่เสื้อหลวมๆ
  • ไม่ควรจะนอน ออกกำลังกาย หรือยกของหนักหลังออกกำลังกาย
  • งดอาหารก่อนนอน 3 ชั่วโมง
  • งออาหารมันๆ อาหารทอด อาหารที่ปรุงด้วยหัวหอม กระเทียม มะเขือเทศ ช้อกโกแลต ถั่ว ลูกอม เนย ไข่ เผ็ด เปรี้ยว เค็มจัด
  • รับประทานอาหารพออิ่ม
  • หลีกเลี่ยง ชา กาแฟ น้ำอัดลม เบียร์ สุรา
  • นอนหัวให้สูงประมาณ 6-10 นิ้ว โดยหนุนที่ขาเตียง ไม่ควรใช้หมอนหนุนที่ศีรษะเพราะทำให้ความดันในช่องท้องสูง
  • รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ
  • ควรจะเข้านอนหรือเอนกายหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
  • ผ่อนคลายความเครียด
ขอบคุณข้อมูลจาก siamhealth.net


No comments: