8 กลยุทธ์สอนลูกให้ฉลาดรอบด้าน
เป็นธรรมดาของคนเป็นพ่อแม่ที่อยากเห็นลูกเติบโตเป็นเด็กฉลาด และอารมณ์ดี แต่คงต้องยอมรับด้วยว่า ในโลกใบนี้ไม่ได้ต้องการแค่คนที่เก่งด้านภาษา และคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังต้องการคนที่ฉลาดในด้านอื่น ๆ เพื่อสร้างโลกให้สวยงามด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้ พญ.นลินี เชื้อวณิชชากร กุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ความรู้ผ่านหัวข้อ "พหุปัญญา 8 วิธีสร้างลูกฉลาดรอบด้าน และโภชนาการในช่วงแรกของชีวิต" ในงานแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส (ประเทศไทย) ว่า พ่อแม่ และครูควรค้นหาจุดเด่นของเด็กว่ามีความฉลาดทางด้านใดบ้าง แทนการยึดถือตามความเชื่อเดิม ๆ ที่นิยามว่า เด็กเก่ง คือ เด็กที่มีความฉลาดเพียงบางด้าน เช่น ด้านคณิคศาสตร์ ด้านภาษา
สอดรับกับทฤษฎีพหุปัญญาของดร.โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่บ่งชี้ว่าเด็กแต่ละคนมีความสามารถต่างกันในแต่ละด้าน หากพ่อแม่ และครูค้นพบจุดเด่นของเด็กก็จะช่วยส่งเสริมให้เด็กแต่ละคนสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้อย่างรวดเร็วขึ้น ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรทำความเข้าใจและอดทนที่จะสอนเด็กให้เหมาะกับสไตล์การเรียนรู้ของพวกเขา ถึงแม้อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เด็กควรได้รับการดูแลในรูปแบบที่แตกต่างกันตามจุดเด่นในแต่ละด้านดังต่อไปนี้
1. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านภาษา
เด็กกลุ่มนี้จะมีความเข้าใจคำศัพท์และใช้ภาษาได้เป็นอย่างดี ใช้คำศัพท์ที่หลากหลาย เรียนรู้ไวยากรณ์ได้อย่างรวดเร็ว และนำไปใช้ได้ดี นอกจากนี้ พวกเขาชอบสนุกกับการต่อคำศัพท์ และเกมอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน ในขณะเดียวกันก็ชื่นชอบโคลงกลอน เพลง และนิทานด้วย
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรให้เด็กเข้าถึงแหล่งความรู้ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เช่น หนังสือ สารานุกรม หรือเว็บไซต์ หาเวลาอ่านหนังสือร่วมกันกับเด็ก และกระตุ้นให้เด็กถามคำถามทันทีที่สงสัย จากนั้นหาโอกาสให้เด็กนำเรื่องราวที่พวกเขาเคยอ่าน หรือฟังมาแล้วนำกลับมาเล่าใหม่ โดยให้พวกเขาแสดงเป็นตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง และคิดบทพูดให้เข้ากับสถานการณ์
2. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านคณิตศาสตร์และตรรกะ
เด็กกลุ่มนี้จะมีความเข้าใจเรื่องตัวเลขได้รวดเร็ว เชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผลได้ดี มีทักษะในการแก้ปัญหา และถ้าเผชิญสถานการณ์ที่ซับซ้อน เด็กสามารถแยกแยะจัดลำดับ และเข้าใจรูปแบบของสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้น เด็กกลุ่มนี้มักจะชอบเล่นเกมที่ต้องแก้ปัญหาทุกชนิด
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรให้เด็กลองคิดหาเหตุผลเบื้องหลังสิ่งต่าง ๆ เช่น เกมปริศนาที่เกี่ยวกับตัวเลข มีการถามคำถามเพื่อกระตุ้นให้เด็กใช้ความคิดอย่างต่อเนื่อง หรือช่วยให้เด็กแบ่งแยกสิ่งที่ได้เรียนรู้ออกมาเป็นหลายขั้นตอน
3. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านดนตรี
เด็กกลุ่มนี้จะมีทักษะในการฟังที่ดีเยี่ยม สามารถแยกแยะความแตกต่างเล็ก ๆ น้อยได้อย่างง่ายดาย และมักหลงใหลในเสียงดนตรี และเสียงเพลง ที่สำคัญพวกเขาชอบทำให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นคำคล้องจอง หรือเป็นแบบแผน เช่น ใช้เทคนิคในการเรียนรู้ผ่านบทเพลง จังหวะ และคำกลอน
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรหาหนังสือที่มีเสียงสัมผัสให้ลูกได้อ่าน ส่งเสริมเขาให้เรียนรู้ และจดจำสิ่งต่าง ๆ เป็นเสียงดนตรี หาเกมเกี่ยวกับตัวเลข และรูปทรงมาให้เล่น หรือหารูปทรงต่าง ๆ ให้ลูกเรียนรู้ หรืออาจให้เด็กใช้ส้อมเสียง น้ำ ทราย หรือสิ่งรอบตัวมาทำให้เกิดเสียงที่แตกต่างกันก็ได้
4. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านร่างกาย
เด็กกลุ่มนี้จะตอบสนองต่อสิ่งเร้าทางกายภาพได้ดี ชอบแสดงออก และสนุกกับกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะ และงานฝีมือ สามารถใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่และกล้ามเนื้อมัดเล็กได้อย่างยอดเยี่ยม และมักจะเคลื่อนไหวตลอดเวลาที่เรียนรู้จนอาจดูเหมือนนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น อาจหากิจกรรมที่เด็กได้เคลื่อนไหวร่างกาย ใช้กล้ามเนื้อ สร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายให้เด็กทำ เพราะถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยพัฒนาเด็กที่ฉลาดในด้านนี้ นอกจากนั้นควรให้โอกาสเด็กได้เดินคิดไปคิดมาและตัดสินใจด้วยตัวเองในขณะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ซึ่งบางครั้งเด็กอาจจะรู้สึกลำบากมากหากต้องนั่งคิดนิ่งๆ อย่างเดียว
5. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านมิติสัมพันธ์
เด็กกลุ่มนี้มัดคิดอะไรเป็นรูปภาพ สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้ในหัว และวิเคราะห์ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถจินตนาการ และสร้างโลกใหม่ขึ้นมาในความคิด มีจินตนาการที่เปี่ยมล้น จดจำทิศทางได้ดี และอ่านแผ่นที่เก่ง
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรหาหนังสือที่มีรูปภาพเยอะ ๆ ให้เด็กอ่าน เวลาอ่านหนังสือให้เด็กฟังควรเน้นให้เด็กสังเกตเห็นภาพ และเชื่อมโยงภาพนั้นกับคำที่คุณอ่าน หรืออาจจะหาของเล่น ไม่ว่าจะเป็นดินน้ำมัน กระดาษ ลูกบอล และตัวต่อ หรือใช้ภาพในการอธิบายสิ่งต่าง ๆ แทนที่จะพูดเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ หากต้องเดินทางไปนอกบ้านด้วยกันก็ควรชี้ให้เด็กสังเกตเห็น และจดจำสิ่งของหรือสถานที่ต่าง ๆ ตลอดทาง
6. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านมนุษยสัมพันธ์
เด็กกลุ่มนี้มักจะชอบอยู่กับคนอื่น และมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ชอบเล่นเป็นกลุ่ม สามารถนำผู้อื่นได้ดี และที่สำคัญจะมีความรู้สึกเห็นอกเห็นใจผู้อื่น
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้พูดคุย หรือทำงานร่วมกับผู้อื่น จัดกิจกรรมให้เด็กได้พบปะสังสรรค์กัน โดยเฉพาะการทำความรู้จักกับเด็กคนอื่นที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี เพื่อเปิดโอกาสให้พวกเขาเรียนรู้ถึงบทบาท และความสามารถของผู้อื่น นอกจากนี้ เวลาอธิบายอะไรให้เด็กฟัง ควรอธิบายเป็นเรื่องราวที่มีตัวละครหลาย ๆ ตัว หรือขณะเดินทางไปนอกบ้าน ควรชี้ให้เด็กสังเกตผู้คนรอบ ๆ ตัว ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม และอาชีพที่แต่ละคนกำลังทำ
7. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านความเข้าใจตัวเอง
เด็กกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มีความมั่นใจในตัวเอง และมักจะชอบทำสิ่งต่าง ๆ ตามสัญชาตญาณของตัวเอง อีกทั้งยังชอบริเริ่มทำสิ่งต่าง ๆ ได้เอง และสามารถทำงานเพียงลำพังได้โดยไม่พึ่งใคร นอกจากนี้ยังเก่งในการทำงานให้ถึงเป้าหมาย มีความชัดเจนว่าตัวเองชอบ หรือไม่ชอบอะไร
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้ความคิดวิเคราะห์ และไตร่ตรองสิ่งที่ได้เรียนรู้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ควรชี้แนะเด็กให้เข้าใจว่า สิ่งที่พวกเขาเรียนรู้นั้นมีความเชื่อมโยงกับพวกเขาอย่างไร แต่ควรให้เด็กเลือกทำ หรือวางแผนสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ไม่ควรบีบบังคับ หรือก้าวก่ายความคิดของเด็ก ๆ ในขณะที่พวกเขากำลังเรียนรู้ ควรให้เด็กมีพื้นที่ส่วนตัว เพื่อคิดไตร่ตรองในการเรียนรู้เรื่องนั้น ๆ ด้วย
8. จุดเด่นของเด็กที่ฉลาดด้านรู้จักธรรมชาติ
เป็นความฉลาดที่เด็กสามารถจดจำ และเข้าใจธรรมชาติรอบตัวได้ดี ซึ่งเด็กกลุ่มนี้จะชอบสำรวจธรรมชาติ และพยายามสังเกตเห็นรูปแบบ คุณลักษณะเฉพาะของสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เป็นเด็กชอบจัดระบบสิ่งของที่สะสมไว้ เก็บรายละเอียดสิ่งต่าง ๆ ได้ดี และมักจะมีความสามารถในการแยกแยะระหว่างสิ่งของในหมวดเดียวกัน และสังเกตเห็นความแตกต่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้
หากพบว่าลูกมีจุดเด่นในด้านนี้ สิ่งที่พ่อแม่สามารถช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดีขึ้น ควรส่งเสริมให้เด็กอยู่กับธรรมชาติ รู้จักจัดการ ค้นหา พร้อมทั้งเชื่อมโยงธรรมชาติให้เข้ากับทุกอย่างที่เด็กเรียนรู้ นอกจากนี้ควรส่งเสริมวิธีคิดให้เด็ก ๆ ได้คิดว่า สิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาเรียนรู้นั้นมีผลต่อโลกนี้อย่างไร จากนั้นพยายามให้ข้อมูลด้านต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เด็กจดจำข้อมูลเกี่ยวกับโลกรอบ ๆ ตัว โดยแบ่งออกเป็นกลุ่ม ๆ ตามลักษณะเฉพาะของสิ่งนั้น ๆ
ถึงเวลาแล้วที่พ่อแม่ และผู้ใหญ่ในสังคมควรเปลี่ยนมุมมองการเลี้ยงลูกจากเดิมที่ยึดติดว่า "ลูกต้องเรียนเก่ง" เป็น "ลูกเก่งด้านไหนใน 8 ด้าน" แทน เพราะโลกนี้ไม่ได้ต้องการคนที่เก่งด้านภาษา และคณิตศาสตร์เท่านั้น แต่ยังต้องการคนที่เก่งด้านอื่น ๆ อย่างนักดนตรี และศิลปินมาเป็นผู้สร้างสรรค์ให้โลกสวยงามด้วย
Cr : manager.co.th
No comments:
Post a Comment