Thursday, November 25, 2010

การเดินทางครั้งนั้น

บ้านอยู่ต่างจัดหวัดก็เป็นธรรมดานะคะที่จะต้องเดินทางกลับบ้านบ่อยๆ แต่สังเกตได้ว่าปีนี้จะมีเรื่องตื่นเต้นระหว่างเดินทางให้ได้พบเจอ ครั้งแรกก็รถเสีย อยู่ดีๆก็ดับไปซะงั้น ครั้งนั้นเหตุเกิดบริเวณไม่มีบ้านใครเลย สองข้างทางเป็นป่า สวนยาง สวนปาล์ม เส้นทางภายใจจังหวัดตรัง (จำไม่ได้ว่าหมู่บ้านอะไร เสียดายจัง) ครั้งนั้นโชคดีมีคนใจดีมาช่วยพาไปหาช่างซ่อมรถในเมือง กว่าจะหาได้ก็ปาไปหลายชั่วโมง เพราะวันนั้นเป็นวันแรงงาน ร้านรวงต่างๆปิดกันไปหมด ศูนย์รถก็ปิด นึกถึงเวลาเหตุการณ์เกิดตอนวันหยุดแล้วเศร้าจริงๆ ติดต่อใครไม่ได้ แต่เราก้อผ่านกันมาได้ด้วยดี แต่คราวนี้สิ ตื่นเต้นระทึกว่าทุกครั้ง เริ่มจากเดินทางออกจาบ้านที่สตูล ลูกสาวคนโตมีอาการแปลกๆไป จะซึมๆ จนในที่สุดเค้าก้ออาเจียน (ปกติจะพูดเจื้อยแจ้วตลอดทางนะ) เราก็แวะล้างหน้าล้างตาเขา แล้วก็ให้เด็กๆนั่งด้านหลังกัน แม่เองก้อคอยดูแลเด็กๆด้านหลัง ด้านหน้าจะมีคุณพ่อเป็นคนขับ และพี่สาว คุณแม่กำลังง่วนๆกับลูกด้านหลัง เงยหน้าขึ้นมาอีกทีเห็นวัวหันหน้ามาดูเราอยู่ด้านหน้ารถ เสียงชนดังปั้ง ฝากระโปรงรถเปิดบังเหตุการณ์ทั้งหมดไม่เห็นอะไรอีกเลย ปราศจากเสียงกรี๊ดภายในรถ ไม่มีเสียงอะไรยกเว้น ลูกชายร้องออกมานิดนึงเพราะเค้าตกลงมาจากเก้าอี้ แต่รถไม่กระแทกมากนะคะ ไม่มีใครเป็นอะไร แฟนบอกว่าต้องดับเครื่อง แล้วลงจากรถไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ภาพที่เห็นคือหน้ารถพังยับเยินเลย หม้อน้ำแตก ชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายเต็มถนนไปหมด ป้ายทะเบียนรถหล่นอยู่ไกลมาก แฟนต้องเดินไปหยิบป้ายทะเบียนมา รถที่วิ่งผ่านไปผ่านมาเหยียบชิ้นส่วนรถกระจัดกระจายเสียงดังไปทั่วถนน พอมองไปอีกฝั่งเห็นวัวไปนอนอยู่ ไม่แน่ใจว่าไปอยู่ด้านนั้นจากการกระเด็นไป หรือวิ่งไปนอนอยู่ตรงนั้น ชาวบ้านแห่แหนกันมาดูเต็มไปหมด ไม่มีใครรับว่าเป็นเจ้าของวัว เราก้อให้คนแถวนั้นเอาวัวไปฆ่าเสีย แต่ไม่มีใครฆ่าเป็น ก้อปล่อยให้นอนอยู่แบบนั้น โทรแจ้งตำรวจ โทรแจ้งประกัน สัก 20 นาที ตำรวจมาที่เกิดเหตุ คุยกับทางตำรวจสักพัก ตำรวจไปดูวัวว่าเป็นยังไงบ้าง โอ้ น่าสงสารเจ้าวัวสิ้นชีพไปแล้ว ตายไปเรียบร้อย คราวนี้ก้อเสร็จคุณตำรวจเลย ก้อจัดการลากวัวขึ้นตำรวจไปเลย ตอนที่ตำรวจลากวัวขึ้นรถนี่แหละพวกเราเพิ่งจะเห็นกันว่าวัวหนะท้องอยู่ น่าสงสารเป็นที่สุด แต่พวกเราก้อไม่สามรถบังคับเหตุการณ์ไม่ให้เกิดขึ้นได้ ขอโทษด้วยนะเจ้าวัวน้อย

ส่วนเราก้อรอประกันต่อไป คุณตำรวจเลยถ่ายรูปเก็บหลักฐานเสร็จก้อเลื่อนรถมาไว้ไหล่ทางจะได้ไม่กีดขวางการจราจร คราวนี้ก้อรอประกัน โอ้ นานมากกว่าประกันจะมา โชคดีแถวนั้นมีเพิงให้พักพิง แล้วก็ชาวบ้านก้อใจดีมานั่งคุยหาน้ำให้ทาน อาศัยเข้าห้องน้ำบ้านเค้า ฝนตกด้วยอากาศไม่ร้อน พอประกันมาก้อจัดการลากรถไปโรงพักแล้วก้อไปอู่ ส่วนครอบครัวเราก้อมีญาติใจดีมารับกลับภูเก็ต

เหุตเกิด ณ คลองแรด คลองพน กระบี่ วันที่ 17 พ.ย. 53 เวลาประมาณก่อนเที่ยง


No comments: