3 ปีแรกของชีวิต เป็นช่วงเวลาทองของสมองและทักษะด้านต่างๆ ที่จะเริ่มพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าเป็นช่วงวัยที่ควรได้รับ การดูแลเอาใจใส่ไปพร้อมๆ กับส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กเติบโตมาด้วยพัฒนาการที่ดีพร้อมทุกด้าน
สิ่งสำคัญของการเรียนรู้เกิดจากการได้ลงมือทำด้วย ตัวเองค่ะ ได้หยิบจับสิ่งของ ได้คลาน ได้หัดตั้งไข่ รวมทั้งได้ฝึกออกเสียงโต้ตอบกับพ่อแม่ เมื่อมีการกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม เด็กก็จะเรียนรู้และมีพัฒนาการดีขึ้น
แต่พ่อแม่ยุคใหม่ที่อยากให้ลูกฉลาดควบคู่ไปกับพัฒนาการที่ดี ได้เลือกใช้ทีวีมาเป็นสื่อเสริมทักษะความรู้ให้ลูก โดยไม่รู้เลยว่าคุณกำลังทำร้ายลูกน้อยอยู่ เพราะด้วยแสงสีเสียงจากทีวีที่สว่างและดัง ไม่เหมาะกับลูกเล็กที่กำลังปรับตัวกับโลกกว้าง
ปิดโอกาสการเล่น+ความสัมพันธ์
การเรียนรู้ของเด็ก ส่วนใหญ่ก็ผ่านการเล่นและการลงมือทำค่ะ แต่ถ้ามีทีวีมาขัดจังหวะ การเรียนรู้ของหนูๆ จะถูกปิดถึง 2 ทางด้วยกัน
1. การเล่นที่เด็กเป็นผู้ลงมือกระทำเอง เด็กเรียนรู้โลกกว้างผ่านการจ้องมอง การสำรวจรื้อค้น การหยิบจับขว้างดึง การสร้างและสมมติ การแก้ปัญหา ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลหากพ่อแม่ต้องการส่งเสริมพัฒนาการ แต่ถ้าเปิดทีวีให้เด็กดู เด็กก็จะมุ่งความสนใจไปอยู่กับทีวี จนทำให้โอกาสที่จะมาเล่นก็น้อยลง
2. ผู้ใหญ่ที่จะมาเล่นกับเด็ก การที่ผู้ใหญ่เปิดทีวีไปพร้อมๆ กับเลี้ยงเด็ก ถึงแม้จะไม่ได้สนใจจ้องมองไปที่ทีวี แต่ก็ทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันลดลง เพราะผู้ใหญ่จะหันเหความสนใจไปที่ทีวีมากกว่าเด็กๆ หรือสนใจเด็กก็ไม่เต็มที่
ทีวีจำกัดพัฒนาการทุกด้าน
ทีวีนอกจากจะไม่ส่งผลดีต่อเจ้าตัวเล็กอย่างที่ หวังแล้ว ยังส่งผลเสียต่อพัฒนาการทุกด้านของเจ้าหนู ทำให้พัฒนาการที่ควรเป็นไปตามวัยล่าช้าอย่างคาดไม่ถึงเลยล่ะค่ะ
• พัฒนาการทางร่างกาย
เด็ก ที่ถูกเลี้ยงด้วยทีวีส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วน เพราะขณะดูทีวีเด็กจะเพ่งมองและไม่เคลื่อนไหวร่างกาย กล้ามเนื้อไม่ได้ขยับ เพราะพัฒนาการด้านร่างกายของเด็กขวบปีแรกจะเกิดจากการได้เคลื่อนไหว และใช้มือหยิบจับสิ่งของ แต่ถ้าดูทีวีอย่างเดียว ทักษะการใช้กล้ามเนื้อทั้งมัดเล็กมัดใหญ่ของลูกก็จะไม่ได้พัฒนาอย่างเต็มที่
• พัฒนาการทางสติปัญญา
เด็กพัฒนาสติปัญญาผ่านการเล่นและสัมผัสของจริง แต่การให้เด็กดูทีวีเพราะคาดหวังให้เด็กฉลาดไม่ได้ช่วยให้เด็กเข้าใจเหตุและ ผลของการกระทำค่ะ เช่น เด็กที่เล่นทรายจะได้เรียนรู้ว่าทรายแตกต่างกัน ระหว่างทรายแห้งและทรายเปียก กระบวนการนี้เด็กจะค่อยๆ เรียนรู้และเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งสอนไม่ได้ทางทีวี
มีงานวิจัยหนึ่งพบว่าเด็กที่ดูทีวีตั้งแต่เล็กๆ มีโอกาสสมาธิสั้นมากกว่าเด็กที่ไม่ได้ดูทีวีเมื่ออายุ 7 ขวบ เพราะไม่สามารถสนใจจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานพอที่จะเรียนรู้ได้ ดังนั้น หากคุณอยากให้ลูกมีสติปัญญาที่ดี ก็ควรส่งเสริมให้ลูกเรียนรู้จากการได้เล่นและลงมือทำมากกว่าการดูทีวี
สิ่ง สำคัญ คือ ควรปิดทีวีและให้ชีวิตร่วม กับลูกในการส่งเสริมพัฒนาการ ดีกว่าใช้ทีวีเป็นพี่เลี้ยง เพราะผลเสียที่เกิดกับลูกมากมายมหาศาลเลยล่ะค่ะ
ข้ิอมูลดีๆจาก รักลูก ฉบับเดือนมีนาคม 2553
No comments:
Post a Comment